กำลังขับไม่ใช่ทุกอย่าง ! ทำความเข้าใจค่า Impedance และ Sensitivity ของลำโพง
หลายครั้งที่นักเล่นเครื่องเสียงมือใหม่มักจะให้ความสำคัญกับค่ากำลังขับ (Wattage) ของแอมพลิฟายเออร์เป็นอันดับแรก โดยเชื่อว่ากำลังขับที่สูงจะช่วยขับลำโพงได้ดีที่สุด แต่ความจริงแล้วยังมีตัวแปรที่สำคัญยิ่งกว่านั้น นั่นคือค่า Impedance (อิมพีแดนซ์) และ Sensitivity (ความไว) ของลำโพง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันระหว่างแอมพลิฟายเออร์และลำโพง
ทำความรู้จักกับ Impedance (อิมพีแดนซ์)
Impedance คือค่าความต้านทานไฟฟ้าที่ลำโพงมีต่อสัญญาณเสียงจากแอมพลิฟายเออร์ หน่วยเป็น โอห์ม (Ω) อิมพีแดนซ์ของลำโพงไม่ใช่ค่าคงที่ แต่เป็นค่าที่เปลี่ยนแปลงไปตามความถี่ของเสียงที่เล่นออกมา โดยค่าที่เราเห็นระบุบนตัวลำโพง เช่น 4Ω หรือ 8Ω คือค่าอิมพีแดนซ์ที่ระบุเป็นค่าเฉลี่ย (Nominal Impedance) ซ ึ่งเป็นมาตรฐานที่ผู้ผลิตใช้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความต้องการกำลังขับโดยรวม
การทำความเข้าใจค่าอิมพีแดนซ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะค่านี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่แอมพลิฟายเออร์ต้องส่งออกมาเพื่อขับลำโพง หากลำโพงมีค่าอิมพีแดนซ์ต่ำ เช่น 4Ω แอมพลิฟายเออร์จะต้องใช้กระแสไฟฟ้ามากกว่าลำโพงที่มีค่าอิมพีแดนซ์สูงกว่า เช่น 8Ω เพื่อให้ได้ระดับความดังที่เท่ากัน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมแอมพลิฟายเออร์บางรุ่นจึงระบุว่าสามารถรองรับลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์ต่ำได้ ซึ่งหมายความว่ามันถูกออกแบบมาให้จ่ายกระแสไฟฟ้าได้มากและเสถียรพอที่จะรับมือกับโหลดที่หนักหน่วง
การเลือกจับคู่ที่ไม่เหมาะสม เช่น การนำแอมพลิฟายเออร์ที่มีกำลังสำรองไม่เพียงพอไปขับลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์ต่ำมาก อาจส่งผลให้แอมพลิฟายเออร์ทำงานหนักเกินไป เกิดความร้อนสะสม และอาจเกิดความเสียหายได้
ทำความรู้จักกับ Sensitivity (ความไว)
Sensitivity คือค่าที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของลำโพงในการแปลงกำลังไฟฟ้าจากแอมพลิฟายเออร์ให้เป็นความดังของเสียง หน่วยวัดของค่าความไวคือ เดซิเบล (dB) ซึ่งมักจะระบุพร้อมกับกำลังขับที่ใช้ทดสอบ (เช่น 1 วัตต์) และระยะห่างที่วัด (เช่น 1 เมตร) ดังนั้นค่าความไวจะถูกระบุในรูปแบบ dB/1W/1M
ค่าความไวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นตัวบ่งชี้ว่าลำโพงมีความ "ดัง" มากน้อยเพียงใดเมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้าในปริมาณเท่ากัน ตัวอย่างเช่น ลำโพงที่มีค่าความไว 90 dB/1W/1M จะให้เสียงดังที่ 90 เดซิเบลเมื่อได้รับกำลังขับ 1 วัตต์ในระยะห่าง 1 เมตร ในขณะที่ลำโพงที่มีค่าความไว 85 dB/1W/1M จะต้องใช้กำลังขับมากกว่าเพื่อที่จะให้ได้ระดับความดังที่เท่ากัน
กฎง่ายๆ ในการทำความเข้าใจค่าความไวคือ ทุกๆ การเพิ่มขึ้นของความดังเสียง 3 dB จะต้องใช้กำลังขับเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นั่นหมายความว่า ถ้าลำโพงมีความไว 85 dB/1W/1M ต้องการระดับความดังที่ 88 dB จะต้องใช้กำลังขับ 2 วัตต์ และถ้าต้องการ 91 dB จะต้องใช้กำลังขับ 4 วัตต์ ในทางกลับกัน ถ้าลำโพงอีกตัวมีความไว 90 dB/1W/1M หากต้องการระดับความดังที่ 91 dB จะใช้กำลังขับเพียง 2 วัตต์เท่านั้น
นี่แสดงให้เห็นว่า ลำโพงที่มีค่าความไวสูง ต้องการกำลังขับจากแอมพลิฟายเออร์น้อยกว่า ลำโพงที่มีค่าความไวต่ำ มาก เพื่อให้ได้ระดับความดังที่เท่ากัน
ความสัมพันธ์ระหว่างกำลังขับ Impedance และ Sensitivity
การจับคู่แอมพลิฟายเออร์และลำโพงที่ถูกต้องจึงไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับกำลังขับ (Wattage) เพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาร่วมกับอิมพีแดนซ์และความไวด้วย
- ลำโพงที่มีความไวสูง (High-Sensitivity Speakers) สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยแอมพลิฟายเออร์ที่มีกำลังขับไม่สูงมากนัก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้กำลังมหาศาลในการสร้างระดับความดังที่น่าพอใจ
- ลำโพงที่มีความไวต่ำ (Low-Sensitivity Speakers) ต้องการแอมพลิฟายเออร์ที่มีกำลังขับสูงและสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ดี เพื่อให้สามารถขับลำโพงให้ได้ระดับความดังที่ต้องการ
ดังนั้น แอมพลิฟายเออร์กำลังขับ 50 วัตต์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีและสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้สูง อาจจะสามารถขับลำโพง 4Ω ที่มีความไวสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าแอมพลิฟายเออร์กำลังขับ 200 วัตต์ที่ถูกออกแบบมาอย่างไม่ดีและไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างเสถียร
ในทางปฏิบัติ การเลือกจับคู่ระบบเสียงควรเริ่มต้นจากการพิจารณาชนิดของลำโพงและค่าอิมพีแดนซ์ที่ระบุ จากนั้นจึงเลือกแอมพลิฟายเออร์ที่มีกำลังขับเหมาะสมและที่สำคัญที่สุดคือต้องสามารถรองรับค่าอิมพีแดนซ์ของลำโพงนั้นๆ ได้อย่างดี ท้ายที่สุดแล้ว การทำความเข้าใจในบทบาทของค่าเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ระบบเสียงที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพเสียงที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องยึดติดกับตัวเลขกำลังขับเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
หากคุณเป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของสำนักงาน หรือผู้รับเหมางานระบบเสียง ภาพ การลงทุนในระบบที่ดี คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยยกระดับการสื่อสารให้เหนือชั้นกว่าที่เคย
สนใจปรึกษาเรื่องระบบเสียง เรามีครบทั้งสินค้า บริการ และทีมช่างมืออาชีพ
- ออกแบบตามขนาดห้องจริง
- แนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมตามงบ
- ติดตั้งและดูแลหลังการขายครบวงจร
หากองค์กรของคุณกำลังวางแผน อัปเกรดระบบเสียงและภาพ ใน ห้องประชุม หรือติดตั้งระบบเสียงและภาพใหม่ เราพร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ และติดตั้ง ระบบเสียง แบบครบวงจร โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ
รวบรวมข้อมูลและเรียบเรียงโดย : CSIProAV
ชุดประชุม, ไมค์ประชุม, ไมค์ห้องประชุม, ไมค์ conference, ห้องประชุม, ลำโพง ห้องประชุม, เสียง ห้องประชุม, Interactive, LED, Touch Screen, จอทัชสกรีน, จอสัมผัส,