คู่มือเลือกซื้อระบบ Video Conference ฉบับเจาะลึก
3 คำถามสำคัญที่ต้องตอบ ก่อนเลือกระบบ Video Conference ให้ "พอดี" กับห้องประชุมของคุณ
การลงทุนในระบบ Video Conference (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) ที่เหมาะสม ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกันในยุคปัจจุบัน การซื้ออุปกรณ์ที่มีราคาแพงที่สุดไม่ได้แปลว่าจะดีที่สุดเสมอไป แต่หมายถึงการเลือกระบบที่ "พอดี" กับขนาดและสภาพแวดล้อมของห้องประชุมของคุณต่างหาก เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและคุ้มค่าที่สุด นี่คือ 3 คำถามสำคัญที่คุณต้องตอบให้ได้ก่อนเริ่มพิจารณาอุปกรณ์ใดๆ
1. ขนาดและเลย์เอาต์ของห้องประชุมคุณเป็นอย่างไร?
ขนาดของห้องประชุมคือปัจจัยแรกและสำคัญที่สุดในการกำหนดสเปคของอุปกรณ์ที่จำเป็น เพราะมีผลโดยตรงต่อระยะการรับสัญญาณภาพและเสียง
1.1 ห้องประชุมขนาดเล็ก (Huddle Rooms: 1-4 คน)
- ลักษณะห้อง เป็นห้องขนาดเล็ก มีโต๊ะขนาดกะทัดรัด ผู้เข้าร่วมประชุมอยู่ใกล้กัน
- คำแนะนำอุปกรณ์ Video Bar All-in-One คือทางเลือกที่ดีที่สุด เป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวที่รวมกล้อง, ไมโครโฟน และลำโพงไว้ด้วยกัน การติดตั้งทำได้ง่ายมาก เพียงแค่เสียบสาย USB หรือ HDMI เข้ากับคอมพิวเตอร์หรือจอแสดงผล ก็สามารถเริ่มประชุมได้ทันที ไมโครโฟนในกลุ่มนี้มักเป็นแบบรับเสียงในระยะสั้น (Short-Range) ซึ่งเพียงพอสำหรับห้องขนาดเล็ก
- สิ่งที่ควรเน้น ความเรียบง่าย (Simplicity) และการติดตั้งแบบ Plug & Play เพื่อลดความซับซ้อนในการใช้งานประจำวัน
1.2 ห้องประชุมขนาดกลาง (Medium Rooms: 5-10 คน)
- ลักษณะห้อง โต๊ะยาวหรือรูปตัว U ผู้เข้าร่วมประชุมนั่งห่างจากจอแสดงผลมากขึ้น
- คำแนะนำอุปกรณ์ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- กล้อง ควรเป็นกล้องที่มีเลนส์มุมกว้าง (Wide-Angle) หรือมีฟังก์ชัน Auto-Framing/Auto-Tracking ที่ชาญฉลาด เพื่อให้กล้องสามารถจับภาพผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนได้ แม้ว่าพวกเขาจะนั่งอยู่ห่างจากกล้อง
- ไมโครโฟน ไมค์จากกล้องอาจไม่เพียงพอ ควรพิจารณา ไมโครโฟนเสริม ที่เป็นแบบ Daisy Chain หรือ ไมค์ 360 องศา ที่มีเทคโนโลยี Beamforming เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถรับเสียงของทุกคนบนโต๊ะได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะคนที่นั่งอยู่ปลายโต๊ะ
- สิ่งที่ควรเน้น คุณภาพเสียงที่สม่ำเสมอในทุกจุดของห้อง และความคมชัดของภาพที่รองรับระยะห่าง
1.3 ห้องประชุมขนาดใหญ่ (Large Boardrooms: มากกว่า 10 คน)
- ลักษณะห้อง โต๊ะประชุมขนาดใหญ่มาก มักมีการวางผังแบบเฉพาะเจาะจง หรือเป็นห้องที่ต้องการการนำเสนอที่มีความน่าเชื่อถือสูง
- คำแนะนำอุปกรณ์ ต้องใช้ระบบที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้
- กล้อง มักต้องใช้กล้องประเภท PTZ (Pan-Tilt-Zoom) ที่สามารถควบคุมการหมุน, การเอียง, และการซูมได้อย่างแม่นยำ และสามารถตั้งค่าตำแหน่งล่วงหน้า (Preset) สำหรับผู้พูดแต่ละคนได้
- ไมโครโฟน มักต้องใช้ระบบไมโครโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ไมค์ติดเพดาน (Ceiling Array Microphones) เพื่อให้มองไม่เห็นอุปกรณ์เกะกะบนโต๊ะ หรือใช้ ไมค์แบบตั้งโต๊ะเฉพาะบุคคล ที่สามารถกดเปิด/ปิดเองได้
- จอแสดงผล แนะนำให้ใช้ระบบ จอคู่ (Dual Screen) โดยจอหนึ่งแสดงผู้เข้าร่วมออนไลน์ และอีกจอหนึ่งแสดงเอกสารหรือเนื้อหานำเสนอ
2. คุณจะใช้อะไรเป็นตัว "ขับเคลื่อน" การประชุม? (BYOM vs. Dedicated PC)
นี่คือการตัดสินใจเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานที่ส่งผลต่อความยืดหยุ่นและความเสถียรของระบบในระยะยาว
2.1 ระบบแบบนำอุปกรณ์มาเอง (BYOM: Bring Your Own Meeting)
- หลักการ ผู้เข้าร่วมประชุมจะนำ Notebook ส่วนตัว มาเสียบสาย (มักใช้ USB) เพื่อเชื่อมต่อกับกล้อง ไมค์ และลำโพงในห้องประชุม
- ข้อดี ยืดหยุ่นสูงสุด เนื่องจากสามารถใช้โปรแกรมประชุมได้ทุกรูปแบบ (Zoom, Teams, Webex, Google Meet) โดยไม่ต้องผูกกับระบบใดระบบหนึ่ง และง่ายต่อการอัปเดตซอฟต์แวร์
- ข้อเสีย ความเสถียรขึ้นอยู่กับ Notebook ของแต่ละคน (เช่น พอร์ตไม่รองรับ, ไดรเวอร์มีปัญหา) และมักจะมีการจัดการสายเคเบิลบนโต๊ะ
2.2 ระบบแบบติดตั้งถาวร (Dedicated Room System)
- หลักการ ห้องประชุมมี คอมพิวเตอร์เฉพาะ (Dedicated PC) หรือมีอุปกรณ์ควบคุม (เช่น Zoom Room Appliance หรือ Microsoft Teams Room Kit) ติดตั้งไว้ในห้องอย่างถาวร
- ข้อดี ความเสถียรสูงสุด และ ประสบการณ์การใช้งานที่เป็นมาตรฐาน ผู้ใช้ควบคุมระบบทั้งหมดผ่านหน้าจอสัมผัส (Touch Controller) ในห้องได้ทันทีโดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับ Notebook ส่วนตัว สร้างความน่าเชื่อถือในห้องประชุมสำคัญ
- ข้อเสีย มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงกว่า และมักจะผูกขาดกับการใช้แพลตฟอร์มประชุมหลักใดหลักหนึ่ง
3. ห้องประชุมของคุณมีปัญหาด้านเสียง (Acoustics) หรือไม่?
แม้จะลงทุนในไมโครโฟนที่ดีที่สุดแล้ว แต่หากสภาพแวดล้อมของห้องไม่เหมาะสม คุณก็ยังคงประสบปัญหา "เสียงก้อง" (Echo) และ "เสียงหอน" ได้
3.1 การประเมินปัญหาเสียงก้อง
- สาเหตุ เสียงก้องมักเกิดจากห้องที่มีพื้นผิวแข็งมาก เช่น ผนังเรียบ โต๊ะกระจก หรือพื้นกระเบื้อง เนื่องจากไม่มีวัสดุดูดซับเสียง (Sound Absorbing Materials)
- การทดสอบง่ายๆ ลองยืนอยู่กลางห้องแล้วตบมือ หากได้ยินเสียงสะท้อนกลับมาหลายครั้ง แสดงว่าห้องมีปัญหาเสียงก้องสูง และการใช้ไมค์ไวสูงจะยิ่งขยายปัญหานี้
3.2 แนวทางการแก้ปัญหา Acoustic ที่ควรทำควบคู่ไปกับอุปกรณ์
- การเพิ่มการซับเสียง ติดตั้งผ้าม่านหนา, ใช้พรมปูพื้น, ใช้เก้าอี้หุ้มเบาะผ้าแทนหนัง, หรือติดตั้งแผ่นซับเสียง (Acoustic Panels) บนผนัง
- เทคโนโลยีไมโครโฟน หากไม่สามารถปรับปรุง Acoustic ของห้องได้มากนัก ควรเลือกไมโครโฟนที่มีระบบ Acoustic Echo Cancellation (AEC) และ Noise Reduction คุณภาพสูง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยตัดเสียงสะท้อนและเสียงรบกวนรอบข้างก่อนส่งออกไป
- การติดตั้งลำโพง ต้องแน่ใจว่าลำโพงและไมโครโฟนไม่ได้หันหน้าเข้าหากันโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิด Feedback (เสียงหอน) ได้
การเลือกซื้อระบบ Video Conference ที่ดีไม่ใช่แค่การเปรียบเทียบราคา แต่คือการนำความต้องการด้าน ขนาดห้อง รูปแบบการใช้งาน และ สภาพแวดล้อมด้านเสียง มาพิจารณาร่วมกันทั้งหมด เพื่อให้การสื่อสารทางไกลขององค์กรคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากคุณเป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของสำนักงาน หรือผู้รับเหมางานระบบเสียง ภาพ การลงทุนในระบบที่ดี คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยยกระดับการสื่อสารให้เหนือชั้นกว่าที่เคย
สนใจปรึกษาเรื่องระบบเสียง เรามีครบทั้งสินค้า บริการ และทีมช่างมืออาชีพ
- ออกแบบตามขนาดห้องจริง
- แนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมตามงบ
- ติดตั้งและดูแลหลังการขายครบวงจร
หากองค์กรของคุณกำลังวางแผน อัปเกรดระบบเสียงและภาพ ใน ห้องประชุม หรือติดตั้งระบบเสียงและภาพใหม่ เราพร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ และติดตั้ง ระบบเสียง แบบครบวงจร โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ
รวบรวมข้อมูลและเรียบเรียงโดย : CSIProAV
ชุดประชุม, ไมค์ประชุม, ไมค์ห้องประชุม, ไมค์ conference, ห้องประชุม, ลำโพง ห้องประชุม, เสียง ห้องประชุม, Interactive, LED, Touch Screen, จอทัชสกรีน, จอสัมผัส,